ใครอยากทำ KDP ต้องอ่านทางนี้ก่อนเลยครับ นี่คือธุรกิจที่ถึงจะมีคนทำเยอะแต่ก็ยังมีช่องว่างอยู่พอสมควรให้สอดแทรกเข้าไปได้ มีหลายคนที่ไม่อยากทำเพราะขั้นตอนมากกว่างานบางอย่างเพราะคุณต้องทำเนื้อใน(interior) และยังต้องออกแบบปกอีก เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่กลัวเรื่องนี้ก็ลองอ่านข้อมูลเบื้องต้นคร่าวๆ ก่อนได้เลยครับ
1. รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ KDP
Amazon KDP เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้แต่งสามารถเผยแพร่และจัดจำหน่ายหนังสือของตนแบบดิจิทัล เข้าถึงผู้อ่านหลายล้านคนทั่วโลก มอบโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับนักเขียนที่ต้องการก้าวข้ามอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์แบบดั้งเดิม ทำให้สามารถควบคุมงานและค่าลิขสิทธิ์ได้อย่างเต็มที่
2. การเตรียมต้นฉบับ
ก่อนที่จะดำดิ่งสู่โลกแห่งการเผยแพร่ด้วยตนเอง สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าต้นฉบับของคุณได้รับการขัดเกลาและพร้อมสำหรับการเผยแพร่ สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์อักษร การแก้ไข และการจัดรูปแบบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ลองขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพหากจำเป็น เนื่องจากเนื้อหาคุณภาพสูงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จ โดยเฉพาะถ้าคุณทำหนังสือแบบ High Content อย่างนิยาย แต่ถ้าเป็น Paperback อย่างสมุดโน๊ต,แพบนเนอร์ จะง่ายกว่า
3. การออกแบบปกที่สะดุดตา
ถึงจะมีคำพูดที่บอกว่าอย่าตัดสินหนังสือจากปก แต่ใช้ไม่ได้จริงๆ: ความประทับใจแรกมีความสำคัญ การออกแบบหน้าปกให้สะดุดตาเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดผู้อ่าให้เลือกเข้ามาดู ลงทุนกับนักออกแบบหน้าปกมืออาชีพที่สามารถสร้างหน้าปกที่ดึงดูดสายตาซึ่งสะท้อนถึงสาระสำคัญของหนังสือของคุณได้อย่างถูกต้อง หรือใครออกแบบเก่งอยู่แล้วก็ยิ่งดีจะใช้โปรแกรมอะไรทำก็ได้อย่าง adobe,canva เป็นต้น
4. การจัดรูปแบบหนังสือของคุณสำหรับ Kindle
ถ้าทำ Kindle การจัดรูปแบบที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการมอบประสบการณ์การอ่านที่ดีให้กับผู้ชม โดยต้องรองรับรูปแบบไฟล์ต่างๆ รวมถึง MOBI และ EPUB ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนังสือของคุณมีรูปแบบที่ถูกต้อง โดยให้ความสำคัญกับรูปแบบตัวอักษร ระยะห่างระหว่างบรรทัด ตัวแบ่งหน้า และสารบัญ โปรดจำไว้ว่าหนังสือที่มีรูปแบบเหมาะสมจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของผู้อ่าน
ส่วนถ้าเป็น Papaerback ก็ต้องวางไม่ให้เกินส่วนที่ amazon กำหนด ส่วนจะเป็นขนาดเท่าไหร่ก็แล้วแต่สมุดที่ทำ
5. การตั้งราคาที่เหมาะสม
การพิจารณาราคาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับหนังสือเรื่องนี้จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ต้องวิจัยตลาดและวิเคราะห์กลยุทธ์การกำหนดราคาของหนังสือที่คล้ายกันในประเภทของคุณ คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความยาวหนังสือ ประเภท และกลุ่มเป้าหมาย ทดลองกับจุดราคาที่แตกต่างกันเพื่อค้นหาจุดที่สมดุลระหว่างความสามารถในการทำกำไรและความดึงดูดใจของผู้อ่าน
6. ปรับรายละเอียดหนังสือให้เหมาะสม
การสร้างคำอธิบายหนังสือที่น่าสนใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดึงดูดผู้อ่านที่มีศักยภาพ ใช้ภาษาโน้มน้าวใจเพื่อเน้นลักษณะเฉพาะของหนังสือของคุณ รวมถึงประเภท โครงเรื่อง และตัวละครหลัก รวม Keyword ที่เป็นคำหลักที่เกี่ยวข้องอย่างมีกลยุทธ์ตลอดทั้งคำอธิบายเพื่อปรับปรุงการค้นพบในผลการค้นหา
7. การใช้ประโยชน์จากหมวดหมู่และคำหลัก
การเลือกหมวดหมู่และคำหลักที่เหมาะสมสำหรับหนังสือของคุณจะเพิ่มการมองเห็นในตลาด Amazon ค้นหาหมวดหมู่ที่เหมาะกับประเภทหนังสือของคุณมากที่สุดและเลือกตามนั้น ทำการวิจัยคำหลักโดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องมือวางแผนคำหลักของ Google หรือคำแนะนำการค้นหาของ Amazon เพื่อระบุคำหลักที่เกี่ยวข้องด้วยปริมาณการค้นหาสูงและการแข่งขันต่ำ แต่ก็มีเครื่องมืออย่าง publisherrocket หรือ KDSPY ก็ทำให้งานง่ายขึ้นอย่างมาก
8. การใช้ KDP Select
ลองลงทะเบียนหนังสือของคุณในโปรแกรม KDP Select ของ Amazon ซึ่งมีสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับระยะเวลา 90 วัน สิทธิประโยชน์เหล่านี้รวมถึงการเข้าถึง Kindle Unlimited และ Kindle Owners' Lending Library ซึ่งอาจเปิดเผยหนังสือต่อผู้ชมที่กว้างขึ้น อย่างไรก็ตาม ให้ชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจว่า KDP Select เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเป้าหมายการเผยแพร่ของคุณหรือไม่
9. โปรโมตหนังสือ
เพื่อเพิ่มการมองเห็นหนังสือของคุณให้ได้มากที่สุด กลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ สร้างตัวตนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ส่วนตัวหรือบล็อก ใช้ประโยชน์จากพลังของเว็บไซต์โปรโมตหนังสือ บล็อกรีวิวหนังสือ และชุมชนออนไลน์เพื่อสร้างกระแสเกี่ยวกับงานของคุณ ลง amazon ads โฆษณาที่ตรงเป้าหมายเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
10. การติดตามการขายและบทวิจารณ์
ตรวจสอบยอดขายและบทวิจารณ์หนังสือ(หรือสมุด)เป็นประจำเพื่อประเมินประสิทธิภาพของหนังสือ Amazon จัดทำรายงานการขายและการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมผ่านแดชบอร์ด KDP ของคุณ วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุแนวโน้ม ทำความเข้าใจความชอบของผู้อ่าน และปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสม
การลงขายสมุดหรือหนังสือใน KDP ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย ต้องอาศัยการเรียนรู้เพราะมีขั้นตอนหลายอย่างแต่ก็จัดว่าเป็นงานที่ต้องบอกว่าถ้าอยู่ตัวแล้วจะเหนื่อยน้อยลงไปอย่างมากครับ
